กดไลท์กดแชร์

ประวัติของเรา


ประวัติของเรา
บ้านสวนสมุนไพร ครบวงจร ภูมิปัญญาไทย..แบบไม่ธรรมดาการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรไทย ปัจจุบันถูกจับมาเป็นธุรกิจทำกำไรให้ผู้ประกอบการรายย่อยหลายราย แต่คงมีไม่มากที่สามารถนำภูมิปัญญาไทยนี้ มาทำเป็น "ธุรกิจครบวงจร" ได้ ดั่ง "บ้านสวนสมุนไพร ครบวงจร” ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรป่าโมกพัฒนา อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ที่เป็นศูนย์การสาธิต และเรียนรู้คุณประโยชน์ของสมุนไพรไทยแห่งนี้

ตั้งต้นจาก "ต้นไมยราบ"


เมื่อก่อน “เสงี่ยม ไม้แป้น” และครอบครัวประกอบอาชีพทำสวนกล้วยหอม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ สุขภาพร่างกายก็เจ็บป่วยบ่อย มีอาการปวดหลังมาก ในวันหนึ่งขณะที่พ่อบ้านกำลังดายหญ้าอยู่ในสวน และจะเก็บต้นไมยราบไปทิ้ง เธอพลันนึกขึ้นได้ว่าในสมัยเด็กๆ ตาของเธอบอกว่าจะเอามาต้มกินแก้ปวดหลัง เธอจึงได้คิดนำต้นไมยราบนั้นมาล้างน้ำ และเอามาต้มกินบ้าง ปรากฏว่าเธอกินน้ำต้มไมยราบหนึ่งวันเต็มๆ อาการปวดหลังก็หายไป

ช่วงนั้นกระแสความนิยมของสมุนไพรได้ขยายวงกว้างขึ้น เสงี่ยมจึงเกิดความคิดที่จะนำสมุนไพรที่เธอได้ลองใช้กับตนเอง และครอบครัวแล้วว่ามีประโยชน์ในการรักษาโรคได้จริง นำไปทำชาขาย หลังจากนั้น เสงี่ยมจึงนำต้นไมยราบมาล้างน้ำ หั่นไว้ แล้วนำมาตากแดด และคั่วให้หอมใส่ใบเตย และดอกมะลิรวมได้สมุนไพร 3 ชนิด เป็นชาชงดื่มสูตรของเธอเอง เพื่อไปขายในงานแสดงสินค้าเล็กๆ ทำครั้งแรกทั้งหมด 20 ห่อ แล้วเธอก็ขายได้หมด

หลังจากนั้น เธอพัฒนาใส่ดอกคำฝอย และเพิ่มใบหม่อนลงไปอีกนิดหน่อย แถมทองพันชั่งด้วย รวมเป็นชาสมุนไพรที่มีส่วนผสม 5 ชนิด เมื่อทำเสร็จแล้วก็ได้ทดลองแจกให้คนชิม ซึ่งทุกคนที่ชิมแล้วต่างบอกว่า รสชาติดี ทุกวันนี้คนทั่วไปรู้จักชาสูตรนี้ในชื่อ "ชาสมุนไพรไทยแท้ ตราแม่บ้าน" ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว

คิดการใหญ่ "ทำสมุนไพร ครบวงจร"

จากเดิมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ได้รวมกลุ่มกันทำผลิตภัณฑ์ เต้าเจี้ยว กล้วยตาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องแยกย้ายกันไป ซึ่งเสงี่ยม ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มแม่บ้านฯ ที่อาชีพเดิมคลุกคลีในแวดวงเกษตรกรรมมาเกือบทั้งชีวิต หลังจากแนวคิดที่เธอจะทำสมุนไพรขายได้ผุดขึ้นมาในสมอง การรวมกลุ่มแม่บ้านฯ จึงหวนกลับมาอีกครั้ง และบทสรุปของอาชีพที่ลงตัวของพวกเธอในตอนนี้คือ "ทำสมุนไพรแปรรูป แบบครบวงจร"

บ้านสวนสมุนไพร ครบวงจร ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ป่าโมกพัฒนา ได้เพาะปลูก ผลิต และจำหน่ายสมุนไพรทั้งขายส่ง และขายปลีก รวมถึงบริการสปา อบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย และบ้านพักโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่สำคัญนี่คือ ศูนย์การสาธิต และเรียนรู้สมุนไพรไทย สำหรับผู้ที่สนใจสมุนไพรไทย และต้องการต้นแบบที่ดีสำหรับธุรกิจประเภทนี้

ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ภูมิปัญญาไทยของพวกเธอได้รับการส่งเสริมให้แจ้งเกิด โดย "ชาสมุนไพรไทยแท้" เป็นสินค้าขึ้นชื่อของบ้านสวนสมุนไพรแห่งนี้ ซึ่งช่องทางจำหน่ายเน้นขายตรงทางอินเทอร์เน็ต และสั่งซื้อทางไปรษณีย์ นอกจากนี้การออกบูธในงานแสดงสินค้าโอทอป

นับรายได้รวมในปีที่แล้วกว่า 7 แสนบาท ช่วยสร้างรายได้ให้กับสมาชิกในกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร เฉลี่ยแล้วคนละ 45 บาท ต่อ หุ้น จากสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 5 คน เมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเงินกองกลางที่ได้รับการจัดสรรจะถูกเก็บไว้เพื่อบำรุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ในการผลิตต่อไป

นอกจากนี้ กลุ่มแม่บ้านฯ ยังรับงานเป็นมือปืนรับจ้าง ผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า หรือตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย ทำให้ขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน ทำรายได้ให้เดือนหนึ่งเป็นเป็นตัวเลขถึง 5 หลักขึ้นไป

แม้ว่างานของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเป็นวิถีทางอาชีพของผู้ประกอบการกลุ่มเล็กแต่ก็สามารถสร้างชื่อ ด้วยการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมแบบครบวงจรได้สำเร็จ นับเป็นต้นแบบภูมิปัญญาไทยใกล้ตัวที่จะช่วยพวกเขาสร้างตัวได้อีกนาน

Ref:http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9470000054996
https://www.facebook.com/ThaiherbPamok/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น